เศรษฐีต่างชาติถือบัตรพริวิเลจ เช็กแล้ว! ไร้ประวัติอาชญากรรม
นายมนาเทศ อันนวัฒน์ เพรสซิเดนท์ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้ดำเนินโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ ภายใต้การกำกับดูแลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงเกณฑ์การคัดเลือกชาวต่างชาติที่จะมาเป็นสมาชิก หลังจากที่มีกระแสข่าวภาพลบของชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นว่า เบื้องต้นต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ก่อน รวมถึงตรวจสอบกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าชาวต่างชาติที่จะเข้ามาเป็นสมาชิก ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม และอาศัยอยู่ที่เมืองไทยอย่างสงบเรียบร้อย
ส่วนข้อสงสัยที่ว่าบัตรพริวิเลจ อำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงเท่านั้น ย้ำว่าเป้าหมายสำคัญคือกลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยเป็นประจำ ทั้งเพื่อการท่องเที่ยว และการพำนักระยะยาว ซึ่งกลุ่มนี้ต้องมีที่พักและการเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเมื่อเจ็บป่วยต้องมีการรักษา เชื่อว่าชาวต่างชาติกลุ่มนี้จะช่วยสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจได้อย่างมากคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
กรณีกระแสข่าวภาพลบของชาวต่างชาติ นายมนาเทศกล่าวว่าถือเป็นเรื่องโชคดีที่กลุ่มดังกล่าวไม่ได้เป็นสมาชิกบัตร แต่เชื่อว่าทุกภาคส่วนยังคงเดินหน้าประชาสัมพันธ์การมาท่องเที่ยวในไทย รวมถึงการวางตัวที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมของไทยด้วย ยืนยันว่าการตรวจสอบสมาชิกทั้งหมด ถูกคัดกรองตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว หากชาวต่างชาติไม่สามารถสมัครบัตรได้ ก็มีความจำเป็นที่ต้องปฏิเสธ ซึ่งปีนี้ต้องจ่ายค่ามัดจำ 50,000 บาท หากไม่เข้าเกณฑ์จะคืนเงินทันที โดยยอดที่ปฏิเสธไปถือว่ามีน้อยมาก
ขณะที่การเข้ามาเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งอาจมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเข้ามาแย่งงานคนไทยหรือไม่ นายมนาเทศเชื่อว่าบางรายอาจไม่ได้ทำงานที่ไทย เพราะเป้าหมายหลักคือการเดินทางท่องเที่ยว และการมาเกษียณอายุ
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2566 มีสมาชิกเพิ่มขึ้น 11,846 ราย คิดเป็น 108% ช่วยสร้างรายได้และกระตุ้นเม็ดเงินเข้าประเทศกว่า 38,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันหลังเปิดตัวบัตร 4 แพคเกจใหม่ในปีที่ผ่านมา ทำให้มียอดสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 31,231 ราย โดย 5 อันดับแรก คือ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และรัสเซีย ขณะที่ปี 2567 ตั้งเป้าขยายฐานสมาชิกไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก ทั้ง จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน รัสเซีย และยุโรป รวมถึงขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ อาทิ อินเดีย ตะวันออกกลาง หรือกลุ่ม LGBTQIA+ ซึ่งมีกำลังซื้อสูง ภายใต้คอนเซปต์ผู้นำด้านเอกสิทธิ์ทางด้านวีซ่าพำนักระยะยาวระดับโลก ตั้งเป้าภายในปี 2567 มียอดสมาชิกกว่า 39,000 ราย สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจกว่า 50,000 ล้านบาท