เลือกตั้ง 2566 – ภาคต่อ! ชายจี้ปมหุ้นITVบังเอิญ หรือ หวังสอย"พิธา"
เมื่อวันก่อน เราเปิดข้อมูลไปว่าในการประชุมผู้ถือหุ้นมี ชายชื่อ ภาณุวัฒน์ ตั้งคำถามว่า ITV ถือหุ้นสื่อหรือไม่ จนถูกวิจารณ์ว่าคำตอบของคำถามนี้จะถูกเอาไปใช้ ในคดีนายพิธา หรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้นเราเจอว่าชายคนนี้ เป็น ผู้จัดการคลินิกที่มีเจ้าของเป็นอดีตผู้สมัครอนาคตใหม่ ซึ่งปัจจุบันอยู่พรรคภูมิใจไทย ล่าสุดวันนี้ 26 พ.ค.2566 พีพีทีวี พาไปดูคำถามอื่นๆของนายคนนี้เพิ่มเติม พบว่า เขาถามทั้งหมด 3 คำถามในการประชุมผู้ถือหุ้นวันนั้น
เลือกตั้ง 2566 : เปิดหลักฐาน“เรืองไกร”เอาผิด“พิธา”ปมถือหุ้นสื่อ
เลือกตั้ง 2566 : “พิธา” มั่นใจ หุ้น ITV ไม่ซ้ำรอยหุ้น “ธนาธร”แน่นอน
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 ของบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) เกิดขึ้น พุธที่ 26 เมษายน 2566 เวลา 14.00น. อย่างที่บอกเป็นการประชุม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM)
เอกสารการรายงานการประชุม ถูกเผยแพร่เป็นสาธารณะ มีทั้งหมด 14 หน้า เมื่อไล่ดูพบว่า นายภาณุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ถามคำถามทั้งหมด 3 คำถาม 2 ใน 3 คำถามน่าสนใจมาก
คำถามแรก เขาถามในวาระที่ 5 ระหว่างการพิจารณาอนุมัติเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระปี 2566 ซึ่งในที่ประชุมก็มีการเสนอตามกระบวนการปกติ เมื่อเปิดให้ผู้ถือหุ้นซักถาม เกี่ยวกับการเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งฯ
นายภาณุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเข้าประชุมด้วยตัวเอง ถามว่า มีกรรมการท่านใดเป็นนักการเมืองหรือไม่ จากนั้นก็มีการตอบว่า ไม่มีกรรมการท่านใดเป็นนักการเมือง
อีกคำถาม คือที่เราเคยเปิดไปแล้ว คือ เขาถามในช่วงท้ายว่า บริษัทไอทีวี มีการดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อหรือไม่
ซึ่งที่ประชุมตอบว่า ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และ มีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ
ประเด็นนี้เป็นหนึ่งในหลักฐานที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นำไปยื่นกับกกต. นั่งคือ เอกสารวัตถุประสงค์ของบริษัทไอทีวี ซึ่งจดไว้ 45 ข้อ
นายเรืองไกร พูดมาตลอดว่า เรื่อง ไอทีวี ยังออกอากาศอยู่หรือไม่ สำหรับเขาไม่ใช่ประเด็น เพราะ ในเอกสารการจดวัตถุประสงค์ของการตั้งบริษัท มีข้อที่นายเรืองไกร ดอกจันไว้ คือข้อ 18 ไอทีวี จดวัตถุประสงค์ ว่า ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์
นี่เป็นจุดที่นายเรืองไกร มองว่า เข้าข่าย ผิด และเชื่อว่า นายพิธา จะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. รวมไปถึง รัฐมนตรี
ก่อนหน้านี้ พีพีทีวี เปิดข้อมูลไปว่าเราพบข่าว ว่า นายภาณุวัฒน์ เป็นผู้จัดการคลินิกเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมี นายนิกม์ แสงศิรินาวิน อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งย้ายมาอยู่ภูมิใจไทย เป็นเจ้าของคลินิก
สาเหตุที่เราพบข้อมูลนี้เพราะ เราไปเจอข่าวอาชญากรรมทั่วไป เป็นข่าว คลินิกนี้ ถูกมิจฉาชีพปลอมลายเซ็นสั่งซื้อยาอันตราย มูลค่ากว่า 100 ล้าน เมื่อช่วงปลายปี 2565 และปรากฎชื่อ ทั้ง 2 คนในข่าว
อีกคนที่มีชื่อในข่าวนี้ คือ นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความเราถามกับ นายเกรียงศักดิ์ ว่า รู้จัก 2 คนนี้ มากน้อยแค่ไหน และ รู้เรื่องหุ้น ITV ของนายพิธา หรือไม่
นายเกรียงศักดิ์ อ้างว่า เขาเป็นทนายในคดีมิจฉาชีพปลอมลายเซ็นให้นายนิกม์ บอกด้วยว่า เขากับนายนิกม์ สนิทกันส่วนตัว ไปออกกำลังกายด้วยกันบ่อยๆ
ซึ่งช่วงก่อนสมัครเลือกตั้ง ส.ส. นายนิกม์ เคยมาปรึกษา เรื่อง ยื่นเรื่องร้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. หลังพบข้อมูลว่า นายพิธา ถือหุ้นสื่อไอทีวี แต่เขามองว่า เรื่องนี้หมิ่นเหม่ ยังไม่มีความชัดเจน จึงไมได้รับเรื่องมาช่วยร้องเรียน และ มั่นใจว่า นายนิกม์ ก็ไม่ได้ดำเนินการต่อใดใด
นายเกรียงศักดิ์ บอกว่า หลังจากนั้นนายเรืองไกรหยิบยกประเด็นนี้มากร้องเรียน ซึ่งเขาเชื่อว่า เกิดจากการที่นำข้อมูลของนายนิกม์ที่เคยลงตามสื่อต่างๆไปขยายต่อเอง นายนิกม์ ไม่ได้เป็นคนให้ข้อมูล เพราะไม่เคยรู้จักนายเรืองไกรมาก่อน และยืนยันว่าไม่ใช่ขบวนการร่วมมือกัน ล้มนายพิธา อย่างที่หลายคนเข้าใจแน่นอน
ส่วนประเด็นเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างนายนิกม์ และ ชายที่ชื่อ นายภาณุวัฒน์ หนึ่งในผู้ถือหุ้นที่วันประชุม ถามว่า บริษัทไอทีวีมีการดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อหรือไม่ ทนายเกรียงศักดิ์ บอกว่า นายภานุวัฒน์ เป็นน้องที่ทำงานให้กับเพื่อนของนายนิกม์ และเป็นคนที่นายนิกม์ ขายหุ้นไอทีวีให้ก่อนวันสมัคร ส.ส.ประมาณ 5 วัน เพราะ กังวลว่าการถือหุ้นสื่อ จะผิดกฎหมายเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่นายภาณุวัฒน์สอบถามในที่ประชุม นายเกรียงศักดิ์ คาดว่า นายนิกม์น่าจะอยากรู้ข้อเท็จจริงถึงสถานภาพการคงอยู่ของบริษัทไอทีวี จึงให้ นายภาณุวัฒน์สอบถามให้เท่านั้น
นายเกรียงศักดิ์ เล่าเพิ่มเติมว่าในช่วงที่ นายนิกม์ อยู่พรรคอนาคตใหม่ ตอนนั้นถือหุ้นไอทีวีอยู่ประมาณ 17,000หุ้น ซึ่งได้มีการปรึกษาทีมกฎหมายพรรคแล้ว ทีมกฎหมายบอกว่าไม่เป็นปัญหาอะไรกับการลงสมัคร ซึ่งตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าทีมกฎหมายของพรรคก้าวไกล ที่คาดว่าน่าจะเป็นทีมเดียวกันกับพรรคอนาคตใหม่ยังไม่แม่นเรื่องข้อกฎหมายจริงๆ
คำพูดจาก เว็บสล็อตแท้